เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

          เนื่องจาก บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ และบริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เพื่อเป็นการรับรองสิทธิของบุคคลที่จะต้องได้รับความคุ้มครองเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล      โดยเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งวิธีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัท ขอให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูล

  • วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล: บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อใช้ในการติดต่อ สื่อสาร และประสานงานสำหรับนำเสนอสินค้าและบริการ การเปิดบัญชีคู่ค้า การเชิญเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ การโฆษณา การวิจัยหรือการจัดทำสถิติ การปรับปรุงการให้บริการของบริษัท การจัดทำข่าวประชาสัมพันธ์ การใช้คุกกี้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
  • ฐานในการประมวลผลข้อมูล : บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานดังต่อไปนี้

            ❒       ฐานสัญญา (Contract) : การปฏิบัติตามสัญญาที่ได้จัดทำระหว่าง บริษัท กับ ท่าน เนื่องจากท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทเพื่อการเข้าทำสัญญา รวมทั้งหากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล จะส่งผลกระทบทำให้ไม่บริษัทไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับท่านได้, ไม่สามารถตรวจสอบความสามารถในการเข้าทำสัญญา และตรวจสอบความเป็นตัวตนของท่านได้ อันเป็นกรณีตามมาตรา 24 (3) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

            ❒       ฐานความยินยอม (Consent) : บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการติดต่อสื่อสาร และการนำเสนอข้อมูลการขายสินค้าและบริการ อีกทั้งการดำเนินธุรกิจให้บรรลุวัตถุประสงค์ เช่น โปรไฟลิ่ง, กิจกรรมการทางการตลาด, เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง,  ตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ทั้งนี้ ฐานความยินยอม (Consent) ดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอม (Consent) เป็นลายลักษณ์อักษรกับท่านต่อไป และหากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมท่านสามารถติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์ได้ตามข้อ 4.

            ❒       ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) : บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปรับปรุง, พัฒนา, การตรวจสอบ และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สินค้าและ/หรือบริการใด ๆ  (รวมถึงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่น) ให้เกิดความปลอดภัย เช่น การจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น             การเข้าสถานที่ทำการของบริษัท, การเข้าสู่ระบบ (Log in) ไปในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท เป็นต้น, เพื่อป้องกันอาชญากรรม     ใด ๆ เช่น อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น และเพื่อป้องกันการฉ้อโกง อันเป็นกรณีฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 24 (5) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

            ❒       ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำกับดูแล หรืออาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานและ/หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และ ศาล อันเป็นกรณีฐานการปฏิบัติตามกฎหมายตามมาตรา 24 (6) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผลและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม

ประเภท/รายการข้อมูลส่วนบุคคลระยะเวลาระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
การจัดงานสัมมนา
ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, สถานที่ติดต่อ, เบอร์โทร,email, line contact
5 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดโครงการ
การจัดทำสัญญา
ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, สถานที่ติดต่อ, เบอร์โทร,email, line contact
10 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดสัญญา

ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้นบริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักหรือวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทอาจส่งข้อมูลของท่านไปยังหน่วยงานกำกับ หน่วยงานของรัฐบาล หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงยุติธรรม, บุคคลใด ๆ ที่บริษัทต้องเปิดเผยเท่าที่กฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือเป็นไปตามคำสั่งศาล หรือกรณีได้รับความยินยอมจากท่านเรียบร้อยแล้ว

*บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่มของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เช่น บริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เช่น บริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เช่น บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด เช่น บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ภายใต้ความยินยอมของท่าน รวมถึงผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด 

4. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้   (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (8) สิทธิที่จะร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อจำกัดกับบริษัทในการติดต่อ สื่อสาร และประสานงานสำหรับนำเสนอสินค้าและบริการ การเปิดบัญชีคู่ค้า การเชิญเข้าร่วมกิจกรรม    ต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ในกรณีที่ท่านขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูล ระงับ หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวตนได้ หรือถอนความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทในการทำธุรกรรมกับท่านได้

การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

5. การเปลี่ยนแปลงเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)   ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทจะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อ สื่อสาร และประสานงานสำหรับนำเสนอสินค้าและบริการ การเปิดบัญชีคู่ค้า การเชิญเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ข้างต้นนั้น ๆ หรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป

6. รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อประสานงานมายังช่องทางดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
เลขที่ 313 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Email Address: privacy@gosoft.co.th

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
58/28 The Tara, หมู่ที่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อ.ปากเกร็ด จังหวัด นนทบุรี 11120
Email Address: dpc_MKT@gosoft.co.th

เอกสารฉบับนี้เป็นการแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้หากพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เลื่อนการมีผลใช้บังคับออกไป ให้ถือว่าเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ เลื่อนการบังคับใช้ออกไป โดยให้มีผลใช้บังคับในวันเดียวกันกับวันที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับ